ในยุคที่เกมคอมพิวเตอร์หลายเกม ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีภาพเสียงและฉากเหมือนจริงมากที่สุด และสามารถสั่งให้ตัวละครทำอะไรกับสิ่งของแวดล้อมได้หลากหลาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความสมจริงตรงนี้มีส่วนทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวละครเอก ที่มีอาชีพ มีภารกิจที่ต้องทำในเกมอย่างจริงจัง ขณะปัญหาต่าง ๆ ที่ผู้พัฒนาเกมได้จำลองให้ตัวละครได้เผชิญในเกมนั้น ก็ฝึกทักษะการวางแผน การแก้ปัญหาของผู้เล่นได้เป็นอย่างดี แต่ในทางกลับกัน ความสมจริงที่ว่านี้ ก็ไม่เพียงแค่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าตัวเองได้สวมบทบาทในเกม และฝึกทักษะการวางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะในเกมเท่านั้น แต่หลายครั้งเกมคอมพิวเตอร์ก็ช่วยฝึกทักษะให้ผู้เล่นนำสิ่งที่ทำในเกมนั้นไปปฎิบัติในชีวิตจริงกันเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าเกม GTA จะเป็นเกมแนวแอ็คชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดเกมหนึ่งในหมู่นักเล่นเกม แต่ในขณะเดียวกัน GTA ก็เป็นเกมที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดทั่วโลกเช่นกัน ด้วยเนื้อหา ภาพความรุนแรง และภารกิจที่ผู้เล่นต้องทำในเกมอย่างที่ระบุไปแล้วข้างต้น ล้วนแล้วแต่ล่อแหลม และเสี่ยงที่จะเป็นการปลูกฝังความรุนแรงให้กับเด็กและผู้เล่นที่ขาดวิจารณญาณอย่างปฎิเสธไม่ได้ จึงไม่แปลกที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เกม GTA มีการพัฒนาเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ขึ้นมา แต่ละประเทศทั่วโลกจะมีการตรวจสอบและพิจารณาเกมนี้กันอย่างละเอียด มีการเซ็นเซอร์ฉากที่ไม่เหมาะสมออกไป เช่น การเซ็นเซอร์การจำลองการมีเพศสัมพันธ์ในเกม หรือธุรกิจการค้าประเวณี เป็นต้น แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผู้พัฒนาก็ยังมีการพัฒนาภาคใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เพราะท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางลบนั้น GTA กลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
โดยตำรวจลอนดอนได้เปิดเผยว่า... การก่อเหตุครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม GTA เผลอ ๆ อาจมีการฝึกทักษะจากเกมเพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตจริง เช่นเดียวกับ แอนเดรส เบห์ริง เบรวิค ฆาตกร 93 ศพที่กราดยิงประชาชนเมืองออสโลที่เจ้าตัวออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองว่า ได้ใช้เกม Modern Warfare 2 เป็นแบบจำลองในการวางแผนก่อการร้าย ซึ่งการก่อการร้ายที่มีเกมเป็นต้นแบบที่เกิดขึ้นในเวลาต่อเนื่องกันนี้ ได้ทำให้ประเด็นอิทธิพลของเกมกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนักมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการก่ออาชญากรรมหลายคดี ผู้ก่อเหตุจะออกมารับสารภาพว่าตัวเองได้ลอกเลียนแบบจากเกม จนทำให้หลายประเทศต้องฉุกคิดและพิจารณาแบนเกมที่มีเนื้อหารุนแรง แต่หลายคนก็ยังมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การแบนเกมรุนแรงโดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบการก่อการร้าย หรือการกล่าวหาเกมรุนแรงว่าเป็นตัวจุดชนวนการก่อการร้ายนั้น คงไม่ใช่ข้อสรุปของปัญหาที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะยังมีผู้เล่นเกมรุนแรงนี้อีกหลายล้าน ที่ถึงขั้นติดเกมแต่กลับไม่ได้ก่อเหตุอันตรายใด ๆ นี่จึงเป็นสิ่งที่น่านำมาขบคิดกันว่า ชนวนของการก่อการร้ายแท้จริงมีสาเหตุมาจากเกมรุนแรงเหล่านี้จริงหรือ หรือจะเป็นเพียงแค่การยัดเยียดความเป็นแพะ ให้กับเกมรุนแรงเหล่านี้ แทนที่จะมองลึกไปที่ปัญหาของตัวบุคคลที่ก่อเหตุกันอย่างลึกซึ้ง
Credit : Kapook
